บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยและเปรียบเทียบลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยโดยรวมและรายด้านก่อนการทดลองและหลังการทดลองของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 5-6 ปี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาองค์ประกอบลักษณะประชาธิปไตย จำนวน 502 คน และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการพัฒนาลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบ RASB ที่ได้จากการเลือกแบบเจาะจง จำนวน 2 ห้องเรียน แบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 24 คน ได้รับการจัดการเรียนการสอนตามรูปแบบการเรียนการสอนแบบ RASB และกลุ่มควบคุมจำนวน 28 คน ได้รับการจัดการเรียนการสอนแบบปกติตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยพุทธศักราช 2546 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ รูปแบบการเรียนการสอนแบบ RASB และแบบประเมินลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัย

ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้: 1) การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัย พบว่า โมเดลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ ได้แก่ ความเคารพซึ่งกันและกัน ความร่วมมือร่วมใจและความเชื่อมั่นในวิธีการแห่งปัญญา ซึ่งโมเดลลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยมีความเหมาะสมพอดีกับข้อมูล

เชิงประจักษ์ มีน้ำหนักองค์ประกอบในแต่ละด้านมีค่าเป็นบวกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ทุกด้าน และสามารถวัดองค์ประกอบลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัยได้ 2) รูปแบบการเรียนการสอนแบบ RASB สำหรับพัฒนาลักษณะประชาธิปไตยของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย 5 หลักการได้แก่ หลักการเรียนรู้จากการสังเกตตัวแบบ หลักการปรับมโนทัศน์ หลักการปฏิสัมพันธ์ หลักการประเมินค่าและหลักการปฏิบัติ ขั้นตอนของรูปแบบการเรียนการสอน 4 ขั้น คือ ขั้นรับประสบการณ์ขั้นร่วมวิเคราะห์ ขั้นคิดคัดสรร และขั้นสร้างนิสัย 3) ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยลักษณะประชาธิปไตยโดยรวมและรายด้านภายในกลุ่มทดลอง พบว่า หลังการทดลองมีค่าสูงขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

เอกสารฉบับสมบูรณ์

• เอกสารผลงานวิจัย ส่วนที่ 1 ดาวน์โหลดเอกสาร