การพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
THE DEVRLOPMENT OF LINEAR STRUCTURAL RELATIONS MODEL OF FACTORS AFFECTING EFFECTIVENESS OF STUDENTS SUPPORTING SYSTEM IN FUNDUMENTA SCHOOLS

: ชื่อผู้วิจัย ไพโรจน์ เคนวิเศษ
: ตำแหน่ง -
: อื่นๆ
: ปี 2558
: 340

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างและพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและ 2) ตรวจสอบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ผู้ให้ข้อมูลคือผู้บริหารโรงเรียนครูแนะแนวและตัวแทนครูที่ปรึกษาจำนวน 570 คน จากโรงเรียนที่เปิดสอนตั้งแต่ระดับอนุบาลหรือระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจำนวน 190 โรงเรียน โดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นวิเคราะห์สถิติพื้นฐานโดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows 17.0 และใช้โปรแกรม LISREL 8.72 ในการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างรูปแบบตามทฤษฎีกับข้อมูลเชิงประจักษ์

ผลการวิจัยพบว่า

1. รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้นจากแนวคิดทฤษฎีและกรณีศึกษาประกอบด้วยตัวแปรแฝง 4 ตัว จำแนกเป็นตัวแปรแฝงภายนอก 1 ตัว คือภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงและตัวแปรแฝงภายใน 3 ตัว ได้แก่ สร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ สร้างความร่วมมือกับชุมชนและประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน

2. รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ (Chi-square = 55.65, df = 41, p-value = 0.063. χ²/df = 1.357, GFI = 0.957, AGFI = 0.904, SRMR = 0.035, RMSEA = 0.043 ,CN = 211.720) ประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนได้รับอิทธิพลทางตรงจากปัจจัยสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้เท่ากับ 0.33 ปัจจัยสร้างความร่วมมือกับชุมชนมีอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.21 และปัจจัยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.24 มีอิทธิพลทางอ้อมโดยส่งผ่านปัจจัยสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้และปัจจัยสร้างความร่วมมือกับชุมชนมีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.40 และมีค่าอิทธิพลรวมเท่ากับ 0.64 โดยค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ (RA2) เท่ากับ 0.50 หมายถึงสัดส่วนของความเชื่อถือได้ในตัวแปรประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่อธิบายได้ด้วยปัจจัยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้และสร้างความร่วมมือกับชุมชนได้ร้อยละ 50

`

การพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิผลของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานTHE DEVRLOPMENT OF LINEAR STRUCTURAL RELATIONS MODEL OF FACTORS AFFECTING EFFECTIVENESS OF STUDENTS SUPPORTING SYSTEM IN FUNDUMENTA SCHOOLS is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.