รูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
THE COMPETENCY MODEL OF LEARNING AREA OF HEAD TEACHERS AFFECTING STUDENTS' LEARNING ACHIEVEMENT IN THE NORTHEASTERN REGION UNDER THE OFFICE OF BASIC EDUCATION

: ชื่อผู้วิจัย บรรจง มูลตรีแก้ว
: ตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาชำนาญการ
: ประถม - มัธยมศึกษา
: ปี 2560
: 949

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จัดองค์ประกอบของรูปแบบและศึกษาอิทธิพลของรูปแบบที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ การวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การพัฒนารูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระ การเรียนรู้ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนใช้เทคนิคเดลฟาย 3 รอบ แหล่งข้อมูลเป็น ผู้เชี่ยวชาญ จํานวน 21 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์และแบบสอบถาม ผู้วิจัยเก็บ รวบรวมข้อมูลด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ วิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแตกต่างระหว่างมัธยฐานกับฐานนิยม และ ค่าพิสัยควอไทล์ ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่พัฒนาขึ้นมี 75 สมรรถนะ ระยะที่ 2 การจัดองค์ประกอบ และศึกษาอิทธิพลของรูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่ม สาระการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ จํานวน 750 คน เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบประมาณค่า 5 ระดับมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 และแบบบันทึกผล คะแนนการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลทางไปรษณีย์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ โปรแกรมสําเร็จรูปทางสถิติและสังคมศาสตร์ หาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสํารวจ โดยหมุนแกนองค์ประกอบมุมแหลมแบบออฟลิมิน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า

1.รูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา มี 7 องค์ประกอบ คือ 1) สมรรถนะด้านภาวะผู้นําการ เปลี่ยนแปลงวิชาการ มี 12 สมรรถนะ 2) สมรรถนะด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ มี 8 สมรรถนะ 3) สมรรถนะด้านการส่งเสริมงานวิชาการ มี 12 สมรรถนะ 4) สมรรถนะด้านคุณธรรม จริยธรรม มี 13 สมรรถนะ 5) สมรรถนะด้านการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม มี 10 สมรรถนะ 6) สมรรถนะ ด้านการนิเทศ กํากับ ติดตามงาน มี 13 สมรรถนะ และ 7)สมรรถนะด้านการพัฒนาหลักสูตรและ การเรียนรู้ มี 7 สมรรถนะ

2. รูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้มีอิทธิพลต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียน ร้อยละ 70.90 เขียนเป็นสมการ ดังนี้

สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนดิบ

? – 10.607+1.667x7+1.617x3+1.442x5+1.173x1+0.400x2+0.535x6+0.366X4 สมการพยากรณ์ในรูปคะแนนมาตรฐาน

2 = 0.614x7+0.391x3+0.351x5+0.208X1+0.123x2+0.094x6+0.088x4

เมื่อ

? คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน (O-NET) 2 คือ คะแนนมาตรฐานของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน X. คือ สมรรถนะด้านภาวะผู้นําการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ K2 คือ สมรรถนะด้านการมีมนุษยสัมพันธ์ X3 คือ สมรรถนะด้านการส่งเสริมงานวิชาการ X4 คือ สมรรถนะด้านคุณธรรม จริยธรรม X5 คือ สมรรถนะด้านการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม X6 คือ สมรรถนะด้านการนิเทศ กํากับ ติดตามงาน X7 คือ สมรรถนะด้านการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้

`

รูปแบบสมรรถนะของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือTHE COMPETENCY MODEL OF LEARNING AREA OF HEAD TEACHERS AFFECTING STUDENTS' LEARNING ACHIEVEMENT IN THE NORTHEASTERN REGION UNDER THE OFFICE OF BASIC EDUCATION is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.