การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างสรรค์ความรู้เมตาคอกนิชันและแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสวงหาความรู้และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย
THE DEVELOPMENT OF LEARNING MANAGEMENT STRATEGY BY INTEGRATING CONSTRUCTIVIST METACOGNITION AND PROBLEM BASED LEARNING APPROACHES FOR ENHANCING KNOWLEDGE ACQUISITION AND PROBLEM SOLVING ABILITIES OF UPPER SECONDARY STUDENTS

: ชื่อผู้วิจัย วันเพ็ญ ชวรุ่ง
: ตำแหน่ง นักวิชาการศึกษาชำนาญการ
: หลักสูตรและการเรียนรู้
: ปี 2559
: 1112

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างสรรค์ความรู้เมตาคอกนิซันและแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสวงหาความรู้และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยดําเนินการวิจัยเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 การศึกษาบริบทและกรอบแนวคิดเพื่อพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ ระยะที่ 2 การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ ระยะที่ 3 การศึกษาผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างสรรค์ความรู้เมตาคอกนิชัน และแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสวงหาความรู้และความสามารถในการคิดแก้ปัญหา

กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนหนองหานวิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 ได้มาโดยใช้วิธีการสุ่มแบบกลุ่ม จํานวน 2 ห้องเรียน ประกอบด้วยนักเรียนห้องละ 42 คน แล้วจับสลากเป็นห้องควบคุมและห้องทดลอง ใช้ระยะเวลาในการทดลอง จํานวน 20 สัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง โดยกลุ่มทดลองได้รับการจัดการเรียนรู้ตามยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นและกลุ่มควบคุมได้รับการจัดการการเรียนรู้ตามปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการการเรียนรู้ 2 รูปแบบ 2) แบบทดสอบวัดความสามารถในการแสวงหาความรู้ 3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาโดยใช้แบบแผนการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi Experiment Design) ดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ วิเคราะห์โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทําการทดสอบที่แบบไม่อิสระ (Dependent t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนพหุคูณ (One-way MANCOVA) และ One-way ANOVA ผลการวิจัย พบว่า

1. ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างสรรค์ความรู้ เมตาคอกนิชันและแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน มีองค์ประกอบ 1) ความเป็นมาและความสําคัญ 2) ทฤษฎีและแนวคิดพื้นฐาน 3) หลักการของยุทธศาสตร์ 4) จุดมุ่งหมายของยุทธศาสตร์ 5) การจัดการเรียนรู้ตามยุทธศาสตร์ ประกอบด้วย 5 ขั้น ได้แก่ 5.1) ขั้นนําเสนอปัญหา 5.2) ขั้นสร้างประเด็นการเรียนรู้ 5.3) ขั้นค้นคว้า หาความรู้ 5.4) ขั้นสรุปความรู้ 5.5) ขั้นนําเสนอและประเมินความสําเร็จ 6) ปัจจัยสนับสนุนการเรียนรู้ ได้แก่ 6.1) การจัดบริบทการเรียนรู้ 6.2) วัสดุและสื่อการเรียนการสอน 7) บทบาทผู้สอน 8) บทบาทผู้เรียน และ 9) การวัดและประเมินผล ซึ่งผลการประเมินยุทธศาสตร์โดยรวมมีค่าเฉลี่ย 4.56

2. ผลการใช้ยุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ พบว่า

2.1 นักเรียนทั้งกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง

2.2 นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยด้านความสามารถในการแสวงหาความรู้ และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสูงกว่ากลุ่มควบคุม

2.3 นักเรียนกลุ่มทดลองที่มีแบบการคิดที่ต่างกัน มีคะแนนเฉลี่ยด้านความสามารถ ในการแสวงหาความรู้ และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาไม่แตกต่างกัน

`

การพัฒนายุทธศาสตร์การจัดการการเรียนรู้ โดยบูรณาการทฤษฎีการสร้างสรรค์ความรู้เมตาคอกนิชันและแนวคิดการใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาความสามารถในการแสวงหาความรู้และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายTHE DEVELOPMENT OF LEARNING MANAGEMENT STRATEGY BY INTEGRATING CONSTRUCTIVIST METACOGNITION AND PROBLEM BASED LEARNING APPROACHES FOR ENHANCING KNOWLEDGE ACQUISITION AND PROBLEM SOLVING ABILITIES OF UPPER SECONDARY STUDENTS is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.