แนวทางการพัฒนาความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
Learning Organization ship AffectingTeachers, Competencies in Secondary Schools Under Secondary Education Service Area Offices in The Northeastern of Thailand

: ชื่อผู้วิจัย แสงดาว คงนาวัง
: ตำแหน่ง -
: ประถม - มัธยมศึกษา
: ปี 2558
: 588

logo onec

บทคัดย่อ (Abstract)

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อการศึกษาระดับความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ และสมรรถนะของครูตามที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด 2) เพื่อศึกษาปัจจัยความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะครู 3) ศึกษาแนวทางการพัฒนาปัจจัยองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครู กลุ่มตัวอย่างคือผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียน หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 15 เขต ๆ ละ 2 โรงเรียน รวมทั้งสิ้นจำนวน 420 คน โดยใช้แบบสอบถามที่พัฒนาขึ้น และผ่านการตรวจสอบคุณภาพด้านความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน และทดลองใช้เครื่องมือกับกลุ่มตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบความเชื่อมั่น ซึ่งได้ค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.987 แล้วจึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปในการวิเคราะห์หาค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และวิเคราะห์หาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ โดยใช้ Pearson Product Moment Coefficient และ Stepwise Multiple Regression Analysis เพื่อศึกษาอำนาจอธิบาย

ผลการวิจัยพบว่า

1) โรงเรียนมัธยมศึกษามีระดับความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้อยู่ในระดับมากทั้งภาพรวมและรายด้านทุกด้านคือ (1) ด้านการจัดองค์การของโรงเรียนเอื้อต่อการศึกษาเรียนรู้ของบุคลากร (2) ด้านมีผู้บริหารและผู้ปฏิบัติการที่เอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง (3) ด้านการจัดระบบการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ (4) ด้านการแสวงหาพัฒนาและการใช้สื่อเทคโนโลยีสาระสนเทศเพื่อการศึกษาเรียนรู้ (5) ด้านกระบวนการและการจัดการนวัตกรรมเพื่อการเรียนรู้ และ (6) ด้านการมุ่งผลผลิตและผลลัพธ์ขององค์การ และครูมีสมรรถนะหลักและสมรรถนะรองอยู่ในระดับมากทุกด้าน

2) ความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของโรงเรียนส่งผลความเป็นสมรรถนะของครูอยู่ในระดับค่อนข้างสูง คือ มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.695 โดยสามารถอธิบายสมรรถนะของครูร้อยละ 49.50 และมีเพียง 4 ด้านที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครู ได้แก่ ด้านการจัดองค์กร ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านกระบวนการและการจัดการนวัตกรรมและการปฏิบัติของผู้บริหารและครู ส่วนอีกสองด้านคือ ด้านการแสวงหา และใช้สื่อเทคโนโลยี และด้านมุ่งผลผลิตไม่ได้มีผลต่อสมรรถนะของครูแต่อย่างใด

3) แนวทางพัฒนาองค์ประกอบความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครูประกอบด้วย (1) ยึดหลักการหลายอย่าง (2) มีขั้นตอนดำเนินการที่เหมาะสม (3) ยึดเนื้อหาสาระเฉพาะองค์ประกอบที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครูเป็นเป้าหมายการพัฒนา (4) จัดกิจกรรมหลากหลายและ (5) มีการประเมินทั้งก่อนและหลังพัฒนา

`

แนวทางการพัฒนาความเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อสมรรถนะของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือLearning Organization ship AffectingTeachers, Competencies in Secondary Schools Under Secondary Education Service Area Offices in The Northeastern of Thailand is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 3.0 License.